ประวัติความเป็นมาของบริษัท

 

บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น ทองแดง  ทองเหลือง สแตนเลส ลวดเหล็ก อะลูมิเนียม ท่อทองแดง ข้อต่อ ฉนวนยาง ท่อปรับอากาศ ลวดเชื่อม และแผ่นหลังคาอะลูมิเนียม เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะและผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง    โดยบริษัทมีนโยบายดำเนินธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสูงสุด ทั้งการพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์ การให้บริการด้านแรงงาน และเทคโนโลยีที่ใช้ในระบบการทำงานเป็นอย่างดี

 

สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่ 229 ถนนนครราชสีมา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ (662) 628-6100 หรือ (662) 628-7535, แฟกซ์ (662) 281-0735 เว็ปไซด์ www ppm.co.th  คลังสินค้าของ บริษัท ตั้งอยู่ที่ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และ ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

 

ปี 2535

  • ก่อตั้งบริษัทในวันที่ 21 กันยายน ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท

 

ปี 2545

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ล้านบาท
  • จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และแปลงสภาพเป็นบริษัท มหาชน จากหุ้นละ 100 บาท เป็น 1 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 120 บาท เป็น 160 ล้านบาท

 

ปี 2548

  • ผ่านการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 : 2000

 

ปี 2549

  • ผ่านการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 : 2000
  • รายได้จากการดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างโกดังเก็บสินค้าใหม่ที่ศาลายา และสร้างอาคารสำนักงานที่เทเวศร์แล้วเสร็จในปี 2550
  • บริษัทซื้อที่ดินที่จังหวัดชลบุรี เพื่อขยายกิจการในอนาคต

 

ปี 2550

  • ลงทุนใน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท สยามเพรสซิเด้นท์ แอนด์ อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด และบริษัท โลตัสลิงค์ จำกัด
  • บริษัทเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัท Kiswel จากประเทศมาเลเซีย และเกาหลีใต้

 

ปี 2551

  • บริษัท สยามเพรสซิเด้นท์ จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 10 ล้านบาท

 

ปี 2552

  • ผ่านการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 : 2008
  • ได้รับรางวัล "สถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์ และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2552"
  • เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลวดเชื่อม ยี่ห้อ TIANJIN RRIDGE & K-WELD ซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม
  • ชนะการประมูลงานป้ายทะเบียนรถยนต์สีขาว จากกรมการขนส่งทางบก สำหรับป้ายทะเบียนที่ใช้ในปี 2552

 

ปี 2553

  • ได้รับรางวัล "สถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์ และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2553"
  • เพิ่มและเสริมสร้างการดำเนินงานการขายและการบริการลูกค้าโดยเริ่มใช้ระบบ CRM (การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า) และ WMS (ระบบการจัดการคลังสินค้า) สำหรับการดำเนินงานคลังสินค้า
  • คณะกรรมการของ KISWEL  เป็นเกียรติเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมอาชีพ นานาชาติหลักสูตรช่างอุตสาหกรรมมืออาชีพ (การซ่อมแซมการเชื่อมเหล็กหล่อ)
  • เป็นตัวแทนจัดหน่ายเครื่องเชื่อม ยี่ห้อ K-WELD
  • ลงนามในวงเงินสินเชื่อเพื่อรองรับสภาพคล่องในทางธุรกิจกับธนาคารทหารไทย

 

ปี 2554

  • นำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีคุณภาพ ทั้งอะลูมิเนียมแบบแผ่น และแบบม้วน ยี่ห้อ K-ROOF  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายของวัตถุดิบและรักษาสิ่งแวดล้อม
  • บริษัทได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล "สถานประกอบการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์ และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2554" เป็นปีที่สามติดต่อกันโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน

 

ปี 2555

  • บริษัทได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล "สถานประกอบการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์ และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2555" เป็นปีที่สี่ติดต่อกันโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
  • แผ่นอะลูมิเนียม K-ROOF ผ่านการทดสอบคุณภาพโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • ลงนามในบันทึกความเข้าใจของกิจการร่วมค้าสำหรับอะลูมิเนียมสีเคลือบผิวกับ Changshu Kaidi Decoration Material Co., Ltd.  เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
  • การประชุมของคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าใหม่ในโครงการ "เดอะ ศาลายา"  ด้วยงบประมาณโครงการ  185 ล้านบาท

 

ปี 2556

  • การประชุมของคณะกรรมการ บริษัทมีมติอนุมัติการลงทุนใน บริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในชื่อ "Premium Flexible Packaging Co., Ltd."  ซึ่งจะประกอบธุรกิจในด้านการผลิต และจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว

ปี 2557

  • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (PPM-W1) จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า กำหนดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปีนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
  • วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนขึ้นอีก 80 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 240 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ PPM-W1
  • วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ชื่อ บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยดำเนินธุรกิจทางด้านพลังงาน